เชื่อว่าผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็น อู่ ช่าง ร้านซ่อมบำรุง ร้านอะไหล่ ประดับยนต์ ช่วงล่าง ล้อ/แม็ก ยาง ชุดแต่ง และอีกมากมาย คุณคงเคยได้ยินคำว่า Supply Chain ซัพพลายเชน หมายถึงห่วงโซ่อุทาน หรืออีกคำที่ใกล้เคียงกันก็คือระบบนิเวศน์ หรือ Ecosystem
ลูกค้าอู่หาย ต้นทุนเพิ่ม รู้จักระบบ Supply Chain ในวงจรธุรกิจยานยนต์
เชื่อว่าผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็น อู่ ช่าง ร้านซ่อมบำรุง ร้านอะไหล่ ประดับยนต์ ช่วงล่าง ล้อ/แม็ก ยาง ชุดแต่ง และอีกมากมาย คุณคงเคยได้ยินคำว่า Supply Chain ซัพพลายเชน หมายถึงห่วงโซ่อุทาน หรืออีกคำที่ใกล้เคียงกันก็คือระบบนิเวศน์ หรือ Ecosystem ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวงจรธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยในที่นี้เราจะพูดถึงแค่เฉพาะระบบ Supply Chain ที่เป็นวงกรการตลาด ซื้อ/ขาย สินค้าและบริการเกี่ยวกับยานยนต์
สำหรับระบบ Supply Chain ของธุรกิจยานยนต์ ประกอบด้วยหลายส่วน ตั้งแต่ ….
ยังไม่นับรวมบริษัทขนส่งที่ต้องจัดส่งสินค้าและสถาบันการเงินที่เป็นตัวกลางในการชำระเงิน
เริ่มจาก ฝั่งผู้ผลิต เมื่อมีคำสั่งซื้อ ต้องสั่งผลิตสินค้า ใช้เวลา 1 เดือน ขนส่งทางเรือ ใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือนครึ่ง รวมแล้วกว่าจะมาถึงผู้นำเข้า ตัวแทนในประเทศ ต้องไม่เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน
จากนั้น ย้ายสินค้าเข้าคลัง ของผู้นำเข้า/ตัวแทนในประเทศ ต้องจ้างเซลล์ ทีมงานไปขาย จัดส่งให้ ตัวแทนประจำภาค/จังหวัด แล้วส่งให้ อู่ ทั่วประเทศ เพื่อขายปลีกให้ ลูกค้า
สรุปว่า ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือ กว่าอู่จะได้ของที่สั่งมาขายให้ลูกค้า ต้องรอไม่ต่ำกกว่า 3 เดือน ซึ่งนอกจากใช้เวลานานแล้ว ยังมี “ต้นทุน” ที่เกิดขึ้นแฝงอยู่ระหว่างทุก ๆ ขั้นตอน ทั้งค่าบริหารจัดการ ค่าขนส่ง ค่าคอม ฯลฯ รวมแล้ว กลายเป็น “ราคาสินค้า” ที่อู่ขายให้ลูกค้า
สมมติ ถ้าสินค้าขายดี ของขาดตลาด? อู่ก็ต้องวนกลับไปสั่งใหม่ เพื่อเก็บไว้เป็น “สต๊อก” แล้วก็ใช้เวลารออีก 3 เดือน วนไปเป็นวัฏจักร แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ “ไม่มีลูกค้า” อย่างช่วงนี้ที่เกิดวิฤตโรคระบาด แล้วของที่สั่งมาเก็บไปจะทำอย่างไร? = เงินจนในสต๊อกมหาศาล
และนี่คือระบบธุรกิจ "รูปแบบเดิม" ที่เคยเป็นและเป็นมานานมาก !!! ซึ่งทุกคนคุ้นชินกันดี และคงนึกภาพไม่ออกว่า ถ้ามีรูปแบบใหม่เกิดขึ้น และดีกว่าเดิม!! น่าตาจะเป็นอย่างไร?