รีวิว OXYHTECH ดีจริงไหม? กับแอดมิน Mazda2 Thailand Club ดีท็อกซ์เครื่องยนต์ทั้งระบบใน 1 ชม.
รีวิว OXYHTECH ดีจริงไหม? กับรถ Mazda2 เลขไมล์กว่า 2 แสนโล! ลองแล้วสัมผัสได้เลยว่า "อัตราเร่งดีขึ้น ขับลื่นขึ้น เครื่องเงียบขึ้น"
🚗 เปิดประสบการณ์ใหม่ทำ "Oxyhtech ดีท็อกซ์เครื่องยนต์ทั้งระบบ" คุ้มไหมในราคาแค่หลักพัน? 🚗
“รถผมใช้มา 2-3 แสนกิโล ตอนแรกก็ไม่คาดหวังอะไรเยอะ แค่รู้สึกว่ารถมันเริ่มอืด คันเร่งไม่ค่อยตอบสนองเหมือนเดิม… แต่พอได้ลองทำ Oxyhtech ไปครั้งเดียว บอกเลยว่า ‘รู้เรื่อง’ ทันที!”
“ปกติรถใช้มานาน เราจะไม่รู้หรอกว่ามันอืดแค่ไหน เพราะเราชินกับมันไปแล้ว แต่พอทำ Oxyhtech มันรู้สึกเหมือนรถเบาขึ้น เงียบขึ้น เร่งแล้วไม่ฝืน พอถอนคันเร่งแล้วรถยังไหลต่อได้สมูทมากๆ ไม่มีอาการกระชากเลย”
“มันคือดีท็อกซ์จริงๆ แบบที่ไม่ต้องแกะ ไม่ต้องรื้อ ไม่เสี่ยงพัง แถมได้ผลเกินคาด ถ้าเทียบกับต้องไปล้างหัวฉีด แคท หรือเปลี่ยนวาล์วเป็นหมื่นๆ อันนี้คุ้มสุดแล้วครับ”
“ราคาก็ไม่ได้แพงเลย ถือว่าโคตรคุ้ม เพราะล้างทั้งระบบ ทั้งเทคโนโลยีไฮโดรเจน ทั้งผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วม ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับยกเครื่องใหม่”
“จากใจเลยว่า ใครที่รู้สึกว่ารถอืด วิ่งไม่ไหล อย่าเพิ่งไปเปลี่ยนหัวฉีด เปลี่ยนวาล์ว ลองดีท็อกซ์ด้วย Oxyhtech ก่อนดีกว่า ของมันต้องลอง แล้วคุณจะเข้าใจว่า… ‘ทำครั้งเดียว เปลี่ยนทั้งฟีลลิ่ง’ จริงๆ”
🌿รู้จัก Oxyhtech คืออะไร?🌿
Oxyhtech (อ๊อกซิเทค) คือ นวัตกรรมคาร์บอนคลีนเนอร์จากประเทศสเปน สามารถคืนความสะอาดให้กับเครื่องยนต์ทุกระบบตั้งแต่ต้นจนจบในขั้นตอนเดียว ด้วยกระบวนการ HHO Technology (ออกซิไฮโดรเจน) ที่เข้าไปล้างเขม่าคาร์บอน คราบตะกรัน และสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ภายใน โดยใช้เวลาเพียง 1-1.30 ชม. และไม่ต้องถอดเครื่อง ผลลัพธ์คือช่วยทำให้ระบบเครื่องยนต์สะอาดขึ้น การเผาไหม้เชื้อเพลิงสมบูรณ์ขึ้น ฟื้นฟูสมรรถนะ (อัตราเร่งดีขึ้น ขับลื่นขึ้น) ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง แถมยังเป็นมิตรต่อเครื่องยนต์และสิ่งแวดล้อม ลดฝุ่นควัน มลพิษไอเสีย "SAVE" ทั้งเวลาและเงินในกระเป๋า
🚗 ประสิทธิภาพที่ได้หลังทำ Oxyhtech ?
✔️ เครื่องยนต์สะอาดขึ้น ทำงานเต็มประสิทธิภาพ
✔️ ฟื้นฟูสมรรถนะของเครื่องยนต์ อัตราเร่งดีขึ้น
✔️ เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ประหยัดเชื้อเพลิง
✔️ ลดการปล่อยมลพิษ ควันไม่ดำ
✔️ ช่วยยืดอายุการทำงานเครื่องยนต์
✔️ ฟิลลิ่งการขับขี่ : สิ่งแรกที่หลายคนสัมผัสได้คือ “คันเร่งเบาขึ้น” การออกตัวดีขึ้น รถไม่อืด ไม่ต้องรอรอบ
🌿 รีวิวการทำงานของเครื่อง Oxyhtech สิ่งที่หลายคนสัมผัสได้หลังทำ🌿
🚗 เทคโนโลยีและการทำงานของเครื่อง Oxyhtech ?
✔️ ใช้เทคโนโลยี HHO (Hydrogen + Oxygen) ซึ่งเป็นการแยกโมเลกุลน้ำ (H₂O) ผ่านกระบวนการ Electrolysis (อิเล็กโทรไลซิส) เป็นก๊าซไฮโดรเจน (H₂) โดยใช้น้ำกลั่นเป็นตัวตั้งต้น
✔️ ตัวเครื่อง Oxyhtech จะผลิตก๊าซ HHO ในปริมาณที่เหมาะสมเข้าสู่เครื่องยนต์ผ่านทางระบบไอดี
✔️ เมื่อก๊าซ HHO จะถูกจุดระเบิดร่วมกับการเผาไหม้ตามปกติ จะเกิดแรงดันและอุณหภูมิพอเหมาะที่ช่วย "ทำความสะอาด" ภายในระบบจุดระเบิด ห้องเผาไหม้ ตลอดจนระบบไอเสีย ร่วมกับน้ำยา Total Intake Cleaner สูตรที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ โดยไม่เป็นอันตราย หรือ ส่งผลเสียกับเครื่องยนต์ (สามารถเติมน้ำยาล้างหัวฉีดก่อนทำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ/ดูแลหัวฉีดโดยตรงได้)
✔️ กระบวนการนี้ใช้เวลาทำ 1-1.30 ชม. ทำให้คราบเขม่า, คาร์บอนแข็ง, น้ำมันตกค้าง สิ่งสกปรก ค่อย ๆ เกิดการ "สลาย/อ่อนตัวลง" และถูกขับออกง่ายขึ้นในระหว่างการทำ โดยไม่ต้องถอด/ประกอบเครื่องยนต์
✔️ สามารถทำได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล (เก๋ง กระบะ รถบรรทุก แทรกเตอร์)
( อ่านเพิมเติม : หลักการทำงานของ Oxyhtech คลิก )
OXYHTECH จัดโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับ Newgarage แจกโค้ดส่วนลด 500.- เฉพาะสมาชิก "CAR CLUB" รับจำนวนจำกัดเพียง 100 สิทธิ์ เท่านั้น!
อย่ารอช้า! รักรถต้อง “ดูแล” OXYHTECH ดีท็อกเครื่องยนต์
👇 กดรับสิทธิ์ส่วนลดที่นี่ 👇
สต็อก 500 ชิ้น
สต็อก 500 ชิ้น
รถที่ใช้งานมาเป็นเวลานาน ใช้งานหนัก เลขไมล์สูง เกิน 70,000-100,000 กม.ขึ้นไป เลี่ยงไม่ได้ที่เครื่องยนต์จะสึกหรอมากกว่ารถที่ใช้งานปกติทั่วไป ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ควันดำ กินน้ำมัน แล้วยิ่งถ้าระบบภายในเครื่องยนต์มีความสกปรกมาก เต็มไปด้วยคราบน้ำมัน เศษฝุ่น/โลหะ คราบสนิม คราบเขม่าคาร์บอน เข้าไปเกาะตามชิ้นส่วนต่าง ๆ เป็นเวลานานจนแห้งแข็ง ยิ่งทำให้เครื่องยนต์สึกหรอ ชิ้นส่วนภายในมีโอกาสชำรุดเสียหายเร็วขึ้น เพราะเหมือนมี “กระดาษทราย” คอยเสียดสีตลอดเวลา และนั่นอาจทำให้คุณต้องจ่ายเงินก้อนโต แถมเสียเวลาเป็นวัน ๆ กับการเอารถไปซ่อม หรือทำความสะอาดภายในเครื่องยนต์ครั้งใหญ่
ตัวอย่างการสะสมของคราบเขม่าคาร์บอน เศษฝุ่น สิ่งสกปรก ที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ในระบบจุดระเบิด ระบบหัวฉีด ท่อร่วมไอดี และห้องเผาไหม้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอ หัวฉีดอุดตัน การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ รถอืด เครื่องยนต์ทำงานไม่เต็มประเสิทธิภาพ กำลังดรอปลง ปล่อยมลพิษ/ไอเสีย/ควันดำมากขึ้น และกินเชื้อเพลิง ฯลฯ