0

ลูกค้าอู่หาย ต้นทุนเพิ่ม รู้จักระบบ Supply Chain ในวงจรธุรกิจยานยนต์

           

ลูกค้าอู่หาย ต้นทุนเพิ่ม รู้จักระบบ Supply Chain ในวงจรธุรกิจยานยนต์

เชื่อว่าผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็น อู่ ช่าง ร้านซ่อมบำรุง ร้านอะไหล่ ประดับยนต์ ช่วงล่าง ล้อ/แม็ก ยาง ชุดแต่ง และอีกมากมาย คุณคงเคยได้ยินคำว่า Supply Chain ซัพพลายเชน หมายถึงห่วงโซ่อุทาน หรืออีกคำที่ใกล้เคียงกันก็คือระบบนิเวศน์ หรือ Ecosystem

...

ลูกค้าอู่หาย ต้นทุนเพิ่ม รู้จักระบบ Supply Chain ในวงจรธุรกิจยานยนต์

เชื่อว่าผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็น อู่ ช่าง ร้านซ่อมบำรุง ร้านอะไหล่ ประดับยนต์ ช่วงล่าง ล้อ/แม็ก ยาง ชุดแต่ง และอีกมากมาย คุณคงเคยได้ยินคำว่า Supply Chain ซัพพลายเชน หมายถึงห่วงโซ่อุทาน หรืออีกคำที่ใกล้เคียงกันก็คือระบบนิเวศน์ หรือ Ecosystem ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวงจรธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยในที่นี้เราจะพูดถึงแค่เฉพาะระบบ Supply Chain ที่เป็นวงกรการตลาด ซื้อ/ขาย สินค้าและบริการเกี่ยวกับยานยนต์ 


สำหรับระบบ Supply Chain ของธุรกิจยานยนต์  ประกอบด้วยหลายส่วน ตั้งแต่ ….

  • ผู้ผลิต โรงงาน เจ้าของสินค้า ซึ่งอาจจะอยู่ในประเทศและต่างประเทศ
  • ผู้นำเข้า ตัวแทนจำหน่าย Distributor
  • เซลล์ หรือ พนังงานขาย
  • ตัวแทนรายย่อย Supplior ประจำภาค/จังหวัด 
  • ผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นอู่ นับแสนราย  ตลอดจน ช่าง บุคลากร อีกเป็นล้านคน 
  • ลูกค้า 

ยังไม่นับรวมบริษัทขนส่งที่ต้องจัดส่งสินค้าและสถาบันการเงินที่เป็นตัวกลางในการชำระเงิน
 

เริ่มจาก ฝั่งผู้ผลิต เมื่อมีคำสั่งซื้อ ต้องสั่งผลิตสินค้า ใช้เวลา 1 เดือน  ขนส่งทางเรือ ใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือนครึ่ง รวมแล้วกว่าจะมาถึงผู้นำเข้า ตัวแทนในประเทศ ต้องไม่เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน 

จากนั้น ย้ายสินค้าเข้าคลัง ของผู้นำเข้า/ตัวแทนในประเทศ  ต้องจ้างเซลล์ ทีมงานไปขาย   จัดส่งให้ ตัวแทนประจำภาค/จังหวัด  แล้วส่งให้ อู่ ทั่วประเทศ   เพื่อขายปลีกให้ ลูกค้า 

สรุปว่า ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือ  กว่าอู่จะได้ของที่สั่งมาขายให้ลูกค้า ต้องรอไม่ต่ำกกว่า 3 เดือน ซึ่งนอกจากใช้เวลานานแล้ว ยังมี “ต้นทุน” ที่เกิดขึ้นแฝงอยู่ระหว่างทุก ๆ ขั้นตอน ทั้งค่าบริหารจัดการ ค่าขนส่ง ค่าคอม ฯลฯ รวมแล้ว กลายเป็น “ราคาสินค้า” ที่อู่ขายให้ลูกค้า  

สมมติ ถ้าสินค้าขายดี ของขาดตลาด? อู่ก็ต้องวนกลับไปสั่งใหม่ เพื่อเก็บไว้เป็น “สต๊อก” แล้วก็ใช้เวลารออีก 3 เดือน วนไปเป็นวัฏจักร แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ “ไม่มีลูกค้า” อย่างช่วงนี้ที่เกิดวิฤตโรคระบาด แล้วของที่สั่งมาเก็บไปจะทำอย่างไร? = เงินจนในสต๊อกมหาศาล

และนี่คือระบบธุรกิจ "รูปแบบเดิม" ที่เคยเป็นและเป็นมานานมาก !!! ซึ่งทุกคนคุ้นชินกันดี และคงนึกภาพไม่ออกว่า ถ้ามีรูปแบบใหม่เกิดขึ้น และดีกว่าเดิม!! น่าตาจะเป็นอย่างไร?